16 ภาษาอังกฤษ ภาคเรียนภาษาอังกฤษ ซื้อหนังสือเรียน การเรียนภาษาอังกฤษ ที่อยู

ในบทความนี้ เราจะนำเด็กๆไปเดินทางผ่านเรื่องราวน่าสนุกและเกมส์ประกอบ ที่ทำให้เด็กๆสามารถสำรวจโลกภาษาอังกฤษได้ และเรียนรู้ความรู้พื้นฐานของภาษาและการสนทนาประจำวันที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวันของพวกเรา ให้พวกเราร่วมเดินทางในการเรียนภาษาอังกฤษที่น่าสนุกและอิ่มใจเสียกับกันนะ!

แนะนำร้านหนังสือ

เริ่มต้นด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับหน้าแมวที่เรียนภาษาอังกฤษ

เดิมสมัยในหมู่บ้านเล็กที่มีความสงบสุข มีน้องแมวหนึ่งตัวที่ชื่อว่า Whiskers ซึ่งชอบเล็งเอาะอ่านและเรียนรู้สิ่งใหม่อย่างมาก ในเช้าวันแจ่มหนึ่ง Whiskers พบหนังสือลึกลับหนึ่งที่ตกที่พื้น หนังสือดังกล่าวตกตะกร้างด้วยคำศัพท์และภาพของสัตว์ที่แปลกปลอม

Whiskers ตัดสินใจเรียนคำศัพท์เหล่านั้น ตอนแรกเธอเรียนโดยการตำหนิคำศัพท์จากหนังสือเขียนลงบนกระดาษ แล้วเรียนเขียนบ่อยๆ จนได้เขียนคำศัพท์ได้สบายใจ

วันหนึ่ง Whiskers ได้พบแมวผู้สูงวัยชื่อ Mr. Paws ผู้ที่ทราบว่า Whiskers มีความสามารถใหม่นี้ และขอให้เธอแสดงให้เห็น แล้ว Mr. Paws บอกว่า “อะไรที่คุณกำลังเรียน วิสคาส?”

วิสคาสระลึกและแสดงหนังสือให้นายเพื่อนดู แล้วบอกว่า “ฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษ! ฉันอยากจะสามารถพูดกับเพื่อนทุกคนของฉันได้”

Mr. Paws ยิ้มและบอกว่า “น่าน่ายมาก วิสคาส การเรียนภาษาใหม่เป็นการเดินทางที่ใหญ่น่าตื่นเต้น ฉันเชื่อว่าคุณจะเป็นนักพูดที่มีความสามารถมาก”

วิสคาสเห็นและยืนยัน แล้วก็กลับมาเรียนต่อตามหลักเรื่องของตัวเอง Whiskers ซึ่งเรียนเกี่ยวกับสี ตัวเลข และแม้แต่วิธีการบอกเวลาด้วย แล้วเธอยังเรียนพูดกับของเล่นของตัวเองและแม้แต่กับกะกาปองนอกหน้าต่างของตัวเองด้วย

วันหนึ่ง Whiskers ได้ยินเสียงดังมาจากและหลังวิหาร ฉันวิสคาสวิ่งออกไปดูสิ่งที่เกิดขึ้น ในตลาดของหมู่บ้านมีกลุ่มคนมากมายรวมตัวกัน และมีชายคนหนึ่งกำลังพูดภาษาต่างประเทศ

วิสคาสเข้ามาข้างมานักพูดนั้นและบอกว่า “สวัสดี! คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ไหม?”

ชายคนนั้นแสดงความประหลาดแต่ยิิย่อมและบอกว่า “ใช่นะ ฉันสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ อะไรที่คุณอยากบอก?”

วิสคาสสัมภาษณ์กลับมากับบอกว่า “ฉันอยากเล่นกับเพื่อนของฉัน”

ชายคนนั้นยิ้มและบอกว่า “อย่างนี้! ขอให้เล่นเกมตัวหนึ่ง ฉันจะบอกคำภาษาอังกฤษ และคุณจะบอกว่าคำนั้นหมายความใดในภาษาของคุณ”

วิสคาสฟังอย่างจริงจังและตอบคำศัพท์ทุกคำได้ถูกต้อง ผู้คนที่อยู่รอบเธอยิ้มและเตือนเตะยอมเป็นที่แปลกใจ

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา วิสคาสกลายเป็นที่รู้จักในหมู่บ้านด้วยความสามารถที่จะพูดภาษาอังกฤษของตัวเอง และช่วยให้คนอื่นๆเรียนภาษา และยังสอนหลักเรื่องของภาษาอังกฤษให้กับสัตว์อื่นๆด้วย

วิสคาสรักการเดินทางใหม่นี้และรู้สึกภาคฝันกับโอกาสที่จะเรียนรู้ ฉันรู้ว่าด้วยความสามารถในภาษาของตัวเอง ฉันสามารถมีเพื่อนใหม่และแบ่งปันโลกของตัวเองกับทุกคน

และบ้างก็วิสคาสก็กลับมาเดินทางต่อตามทางของตัวเอง แบ่งปันความยินดีและความรู้ทั่วทุกที่ที่เธอไป

จะไปร้านหนังสือ

  1. coming into the shop:
  • “สวัสดีครับ รับชมตัวดีครับ! รับเข้ามาที่ร้านหนังสือเด็ดขาดนี้”
  • “ฉันไปที่ร้านหนังสือ”
  • “ในนั้นมีอะไรตามดูมา?”
  1. choosing Books:
  • “ฉันเห็นหนังสือมากมาย”
  • “หนังสือนี้มีสีสันงามกัน”
  • “หนังสือนี้มีเรื่องอะไร?”

three. inquiring for help:– “คุณสามารถช่วยฉันหาหนังสือได้ไหม?”- “คุณมีหนังสือเกี่ยวกับสัตว์หรือไม่?”

  1. Making a spread:
  • “ฉันชอบหนังสือนี้”
  • “ฉันต้องการซื้อหนังสือนี้”
  • “หนังสือนี้ต่อเงินไหม?”
  1. checking out:
  • “ขอบคุณที่ช่วย”
  • “ฉันไปที่ตัวเข้าเงินเลย”
  • “แล้ว ฉันมีหนังสือนี้ โปรดนำไป”
  1. Exiting the shop:
  • “จบข้างนี้ ขอบคุณที่มาที่ร้านหนังสือ”
  • “ฉันมีสัปทาย์ดีในการหาหนังสือ”
  • “ฉันจะกลับบ้านตอนนี้”

ชมหนักหนัง

ในมุมหลังห้องที่มีความสบายสบายนี้ มีชั้นหนังสือที่มีหน้าปกสีสดใส. ในแต่ละหนังสือมีเรื่องราวที่จะบอกเราเกี่ยวกับประสบการณ์ของมัน วันนี้เราจะมองเห็นเรื่องราวเหล่านี้กันด้วยกัน โดยจะดูบางหนังสือและจินตนาการเรื่องประสบการณ์ที่มันอาจจะมี

  1. หนังสือสีแดง: หนังสือนี้มีสีแดงเหมือนรถดับเพลิง. จินตนาการว่ามันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักดับเพลิงที่กล้าหาญและบริสุทธิ์ในวันหนึ่ง หน้าเล่มที่เต็มไปด้วยสีแดงที่ร้อนระลอกและคำตัวที่เล่นตลอดเวลา

  2. หนังสือสีฟ้า: หนังสือนี้มีสีฟ้าเหมือนทะเล. จินตนาการว่ามันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับปลายังเล็กที่ว่ายน้ำผ่านทะเลสีฟ้า พบเพื่อนร่วมทะเลทุกชนิด หน้าเล่มเป็นสีเย็นเหมือนน้ำทะเล และคำตัวเป็นสดใสเหมือนน้ำทะเล

  3. หนังสือสีเขียว: หนังสือนี้มีสีเขียวเหมือนป่า. จินตนาการว่ามันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหนูที่สนใจที่สำรวจต้นไม้ที่มีใบเขียว กระโดดจากต้นหนึ่งไปต้นอีก หน้าเล่มเต็มไปด้วยความสดใสของฤดูใบไม้ผลิ และคำตัวมีชีวิตเหมือนใบไม้ที่เต้นรำกับลม

  4. หนังสือสีเหลือง: หนังสือนี้มีสีเหลืองเหมือนแดดส่อง. จินตนาการว่ามันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวันที่แดดตกง่าย เด็กๆเล่นเล่นในสวนสนุก หน้าเล่มเป็นสีร้อนและมีความยิ้มยิ่ง และคำตัวมีความระเบิดเหมือนแสงแดดที่แสงขึ้น

เมื่อเรามองเห็นหนังสือเหล่านี้ เราสามารถจินตนาการประสบการณ์ที่มันอาจจะนำเราไปตามทางไหน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางผ่านป่า การว่ายน้ำในทะเล หรือการเดินทางผ่านเมือง แต่ละหนังสือมีโลกที่มีหลายๆทางที่เราสามารถเดินทางไปด้วยคำตัวของมัน ให้เปิดหนังสือและดูที่คำตัวจะนำเราไปไหน!

หนังสือ

เมื่อเช้าที่มีแสงแดดระเบิดไปอย่างเปลี่ยนแปลง ลูกชายชื่อตอม และลูกสาวของเขา ลิลลี่ ตัดสินใจที่จะไปร้านหนังสือใกล้เคียงกับบ้านของพวกเขา。ร้านหนังสือเต็มไปด้วยหนังสือสีสันที่มีความรู้สึกทางความรู้ และมีกลิ่นหอมของความรู้แห่งวิชาคาดวงศาสตร์。

ตอมและลิลลี่เข้าไปในร้านหนังสือและมองเห็นเห็นหนังสือบนชั้นเก็บที่มีหลากหลายประเภทของหนังสือ ตอมจึงเก็บหนังสือเกี่ยวกับอวกาศมาอ่าน และตั้งคำถามว่า “นี่เป็นหนังสืออะไร?”

ลิลลี่มองแล้วตอบว่า “นี่คือหนังสือเกี่ยวกับอวกาศ หนังสือนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์และดวงดาวมากมาย”

ตอมที่ได้ยินก็ชื่นชมและเริ่มอ่านหนังสือ ขณะอ่านและถามลิลลี่ว่า “หนังสือนี้กล่าวว่าดาวเคราะห์ทำด้วยก๊าซ ถูกต้องไหม?”

ลิลลี่เอ่ยมือว่า “ใช่แล้ว ดาวเคราะห์ทำด้วยก๊าซ และพวกเขากะทันหันในอวกาศ”

ทั้งคู่ก็หาหนังสือเกี่ยวกับทะเลอีกหนังสือหนึ่ง ซึ่งมีรูปและบรรยายเกี่ยวกับสัตว์ทะเลมากมาย ตอมและลิลลี่เดินทางด้วยกันมองรูปและอธิบายเกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์ทะเล

“หนังสือนี้กล่าวว่าเป็นสัตว์น้ำที่ชาติดาวและสามารถกระโดดได้ ถูกต้องไหม?” ตอมถาม

“ใช่แล้ว น้ำทะเลนั้นมีสมองที่ชาติดาวและพวกมันจะกระโดดเพื่อแสดงความดีใจ” ลิลลี่ตอบ

พวกเขายังหาหนังสือเกี่ยวกับสัตว์อีกหนังสือหนึ่งที่มีชื่อสัตว์และเสียงติดตามของพวกมัน ตอมและลิลลี่จับต่อกันอ่านชื่อสัตว์และแสดงเสียงติดตามของพวกมัน

“นี่คือสุนัข วาววาวว์!” ตอมแสดงเสียงสุนัข

“นี่คือแมว มิวมิวมิว!” ลิลลี่แสดงเสียงแมว

พวกเขายังพบหนังสือเกี่ยวกับวิถีการขนส่งอีกหนังสือหนึ่งที่มีชื่อวิถีการขนส่งและคุณสมบัติของพวกมัน ตอมและลิลลี่เรียนคำศัพท์นี้กันและหารือว่าการใช้งานของพวกมัน

“นี่คือรถไฟ มันสามารถเดินทางด้วยความเร็วระดับสูงบนราง” ตอมบอก

“นี่คือรถยนต์ มันสามารถเดินทางบนถนน” ลิลลี่บอก

หลังจากใช้เวลาที่ร้านหนังสืออย่างสนุกสนานทั้งหมดเช้าที่นั้น ตอมและลิลลี่จึงหันกลับบ้านด้วยตัวและบัตรหนังสือที่เต็มไปด้วยความรู้ที่น่าสนใจ และตัดสินใจที่จะอ่านหนังสือเหล่านั้นต่อไปที่บ้านเพื่อเรียนรู้ความรู้ที่น่าสนใจมากขึ้นอีก

หนังสือมากมาย

ในร้านหนังสือ

มิ่ง: “hiya, ญาติ. สามารถช่วยคุณหาหนังสือได้ไหม?”

พนักงานร้าน: “ต้องการ! คุณมองหาหนังสืออะไร?”

มิ่ง: “ฉันอยากหาหนังสือเกี่ยวกับสัตว์.”

พนักงานร้าน: “แน่นอน! ร้านมีหนังสือเกี่ยวกับสัตว์มากมาย. คุณอยากเห็นภาพรูปเพื่อช่วยเลือกไหม?”

มิ่ง: “ใช่ โปรด.”

(พนักงานร้านเอาภาพรูปสัตว์มาให้มิ่งดู)

พนักงานร้าน: “นี้คือหนังสือเกี่ยวกับสุนัข. คุณชอบสุนัขไหม?”

มิ่ง: “ใช่ ฉันชอบ! ฉันสามารถอ่านมันได้ไหม?”

พนักงานร้าน: “แน่นอน! โปรดตามฉันไป.”

(พนักงานร้านนำมิ่งไปยังชั้นหนังสือ มิ่งเลือกหนังสือหนึ่ง)

มิ่ง: “หนังสือนี้มีภาพรูปสุนัขมากมาย. ฉันชอบมัน!”

พนักงานร้าน: “น่าพอใจ! ฉันมีความยินดีที่คุณหาแก่ได้หนังสือที่คุณชอบ. คุณอยากซื้อหนังสือนี้ไหม?”

มิ่ง: “ใช่ ฉันอยากซื้อหนังสือนี้. ราคาหนังสือนี้เท่าไหร่?”

พนักงานร้าน: “สิบดอล. มันเป็นเงินมากมาย!”

มิ่ง: “สิบดอล? มันเป็นเงินมากเกินไป!”

พนักงานร้าน: “ใช่ แต่มันเป็นหนังสือที่ดี. คุณมีหนึ่งดอลไหม?”

มิ่ง: “ใช่ ฉันมีหนึ่งดอล. ฉันสามารถจ่ายหนังสือด้วยเงินนี้ได้ไหม?”

พนักงานร้าน: “แน่นอน! นี่คือหนังสือของคุณ. ดีต่อการอ่าน!”

มิ่ง: “ขอบคุณ, ญาติ! ฉันจะอ่านหนังสือนี้ที่บ้าน.”

(มิ่งออกจากร้านหนังสือ พร้อมกับหนังสือใหม่)

ขอรายละเอียด

ฉันจะไปร้านหนังสือ

ฉันเห็นหนังสือมากมาย

หนังสือนี้มีเรื่องเกี่ยวกับอะไร?

มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุนัข

ฉันอยากซื้อหนังสือนี้

ขอบคุณครับ/ค่ะ

หนังสือนี้มีงามมาก

ฉันกำลังไปหน้าร้านหนังสือ มีหนังสือมากมายบนเนื้อตะกร้าเรียงขึ้นบนพื้นที่ หนังสือนี้ดูงดีมาก มีภาพสีสันและคำว่าที่น่าสนใจ ฉันเห็นหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ ฝายหน้าแสดงภาพแกะวาดของแรกงูและหมู่เจ้า ฉันอยากซื้อหนังสือนี้ ฉันสามารถมองภายในหรือเปล่า? หน้าในหนังสือบันทึกแนวทางและภาพสัตว์ ฉันได้รู้ว่าแรกงูแข็งแกร่งและหมู่เจ้าสูง ฉันพึงพอใจกับการเลือกของตัวเอง ฉันเอาหนังสือนี้ไปที่ตัวโค้นและจ่ายเงิน ร้านหนังสือนี้เป็นสถานที่น่าสนใจที่ให้เรียนรู้และตลอดการสำรวจ

ใคร่อยๆตรวจสอบเนื้อหาของหนังสือนี้ไม่ให้มีตัวอักษรภาษาจีนแบบเรียงตามตำแหน่ง

หนังสือนี้เรื่องเกี่ยวกับแมวที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษ

คุณสามารถอ่านคำนี้ได้ไหม?

คำนี้คือ ‘cat’

สีของแมวอย่างไร?

แมวมีสีดำ

แมวกำลังทำอะไร?

แมวกำลังอ่านหนังสือ

หนังสือนี้เรื่องอะไร?

หนังสือเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษ

คุณสามารถบอก ‘ฉันชอบหนังสือนี้’ ได้ไหม?

ฉันชอบหนังสือนี้

คำนี้คืออะไร?

คำนี้คือ ‘e-book’

ภาพนี้เป็นอะไร?

ภาพนี้เป็นแมว

แมวกำลังทำอะไรในภาพนี้?

แมวกำลังนั่งและอ่านหนังสือ

คุณสามารถบอก ‘แมวกำลังอ่านหนังสือ’ ได้ไหม?

แมวกำลังอ่านหนังสือ

คำนี้คืออะไร?

คำนี้คือ ‘studying’

คำนี้คืออะไร?

คำนี้คือ ‘ebook’

คำนี้คืออะไร?

คำนี้คือ ‘cat’

คำนี้คืออะไร?

คำนี้คือ ‘is’

คำนี้คืออะไร?

คำนี้คือ ‘a’

ซื้อหนังสือ (sǔt hǎngsù)

ครู: “คุณอยากซื้ออะไรจากหน้ามหรสพยานนี้?”

เด็ก 1: “ฉันอยากซื้อหนังสือ”

ครู: “ดีเด่นมาก! คุณรู้ว่าเรียก ‘หนังสือ’ ด้วยภาษาอังกฤษได้ไหม?”

เด็ก 1: “e-book”

ครู: “ถูกต้อง! ‘e book’ นั่นคือที่ถูกต้อง! นอกจากนี้ คุณอยากซื้ออะไร?”

เด็ก 2: “ฉันอยากซื้อสินค้าเล่น”

ครู: “ที่ดี! คุณเล่าว่า ‘สินค้าเล่น’ ด้วยภาษาอังกฤษได้ไหม?”

เด็ก 2: “Toy”

ครู: “ถูกต้อง! ‘Toy’ นั่นคือที่ถูกต้อง! จำไว้ว่า เมื่อคุณไปหน้ามหรสพยานนี้ คุณสามารถขอสิ่งที่คุณอยากซื้อได้. จะแบ่งยั้งฝึกกันร่วมกันไหม”

ครู: “หากคุณอยากหนังสือ คุณจะพูดว่า ‘ฉันอยากซื้อหนังสือ’ และหากคุณอยากสินค้าเล่น คุณจะพูดว่า ‘ฉันอยากซื้อสินค้าเล่น’. จะแบ่งยั้งฝึกกัน”

(เด็กเข้าร่วมบทสนทนาเพื่อแต่งเพลง)

ครู: “เล่นได้ดี! คุณได้เรียนว่าจะขอหนังสือและสินค้าเล่นที่หน้ามหรสพยานนี้ จำไว้ว่าเมื่อเสร็จแล้ว คุณต้องพูด ‘ขอบคุณ’ ด้วยน่อน. ตอนนี้ จะรวบรวมสิ่งที่เราเรียนวันนี้”

(เด็กเข้าร่วมบทสนทนาทั้งหมด)

ครู: “วันนี้ เราได้เรียนว่าจะขอหนังสือและสินค้าเล่นที่หน้ามหรสพยานนี้. เราพูดว่า ‘ฉันอยากซื้อหนังสือ’ และ ‘ฉันอยากซื้อสินค้าเล่น’. จำไว้ว่าเมื่อเสร็จแล้ว คุณต้องพูด ‘ขอบคุณ’ ด้วยน่อน. ขอแบ่งยั้งฝึกทั้งหมดอีกครั้ง”

ฉันต้องการซื้อหนังสือนี้

ครู: “เลือกตัวนี้ดีมากเลย! สีของหนังสือเป็นสีอะไร?”

เด็ก: “หนังสือนี้เป็นสีน้ำเงิน”

ครู: “ดีมาก! แล้วในหนังสือมีอะไร?”

เด็ก: “มีรูปและคำอยู่มากมาย”

ครู: “ดีเลย! ตอนนี้เราจะพูดภาษาอังกฤษ คุณจะพูดว่า ‘I would like to shop for this book’ ได้หรือไม่?”

เด็ก: “I would really like to buy this e book.”

ครู: “ถูกต้อง! จะพูดอีกครั้งด้วยไหม?”

เด็ก: “I would like to buy this ebook.”

ครู: “ดีเลย! ตอนนี้เราจะแต่งกายว่าเราอยู่ที่หน้าร้านหนังสือ. คนขายหนังสือบอกว่า ‘What would you want to buy?’ คุณจะตอบได้อย่างไร?”

เด็ก: “I would like to shop for this ebook.”

ครู: “ถูกต้อง! คุณทำได้ดีเลย! จำไว้ว่า เมื่อคุณอยากซื้ออะไร คุณจะสามารถบอกว่า ‘I would really like to buy this…’”

(วางแผนกิจกรรมการฝึกซ้อมเพิ่มเติมและให้การเสนอนำเสนอในลักษณะบวกใจเพื่อให้เด็กใช้ประโยคถูกต้อง)

ขอบคุณค่ะ

ครู: “เธอทำงานได้ดีมากที่นี่! ฉันงดีต่อเธอมาก อะไรเธออยากจะบอกต่อฉัน?”

เด็ก 1: “ขอบคุณ”

ครู: “ต้องการบอกต่อฉันว่าเธอมีความยินดีหรือต้องการแสดงความนึกดี ก็บอก ‘ขอบคุณ’ นั่นเอง ให้เราบอกด้วยกันอีกครั้ง”

(เด็กเข้าร่วมนับเลขเพื่อแต่งเพลง)

ครู: “ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ”

(เด็กเข้าร่วมนับเลขเพื่อแต่งเพลง)

ครู: “ตอนนี้ จงจินตนาการว่าเธอต้องการบอก ‘ขอบคุณ’ ให้คนอื่น คุณจะบอกอย่างไร?”

เด็ก 2: “ขอบคุณ”

ครู: “ดีเลย! คุณสามารถบอก ‘ขอบคุณ’ ให้กับใครก็ได้ที่ช่วยเหลือคุณหรือทำอะไรดีให้กับคุณ ให้เราฝึกบอก ‘ขอบคุณ’ ต่อคนอื่นๆ ด้วยกัน”

ครู: “คุณสามารถบอก ‘ขอบคุณ’ ให้ใคร?”

เด็ก three: “ฉันสามารถบอก ‘ขอบคุณ’ ให้แม่ของฉัน”

ครู: “นี่คืออิสระที่ดีมาก! คุณสามารถบอก ‘ขอบคุณ’ ให้เพื่อนของคุณ ครูของคุณ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงของคุณด้วย ให้เราฝึกบอก ‘ขอบคุณ’ ต่อคนอื่นๆ ด้วยกัน”

(เด็กเข้าร่วมบทสนทนา)

ครู: “ขอบคุณแม่ของฉัน ขอบคุณเพื่อนของฉัน ขอบคุณครูของฉัน และขอบคุณสัตว์เลี้ยงของฉัน”

(เด็กเข้าร่วมบทสนทนา)

ครู: “จดจำไว้ว่า บอก ‘ขอบคุณ’ นั้นเป็นวิธีที่ดีและมีนุนทำให้คนรู้สึกดีและมีความยินดี ให้เราพยายามใช้ ‘ขอบคุณ’ มากขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *