เมื่อเด็กเริ่มสนใจในโลกที่รอบตัวเขา มันตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เขาเห็นและฟังได้ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้และการสนุกเล่นด้วยภาษาอังกฤษ บทนี้จะนำเสนอแบบฝึกหัดและเล่นต่างๆ ที่ช่วยเด็กพัฒนาความรู้และความสนุกในการใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การอ่านเรื่องราว หรือการสนทนาบันทึก ทุกอย่างที่นำไปสู่การเรียนรู้ที่มีประโยชน์และน่าสนุก!
หน้าร้านหนังสือ
เด็ก (D): วันนี้เรามาที่ร้านหนังสือเป็นไหม? มีหนังสือน่าอ่านมากมายนะครับ! มีหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือไม่ครับ?
ครู (T): ชมแล้วนะครับ! มีหนังสือ “The Story of the World” ซึ่งเป็นหนังสือที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ในลักษณะที่ง่ายสำหรับเด็กได้ครับ.
หน้ากลางร้าน
เด็ก (D): แล้วฉันจะเลือกหนังสือนี้ไปครับ! ฉันชอบเรื่องประวัติศาสตร์เท่าไหร่นะครับ!
ครู (T): ดีมากนะครับ! ก่อนที่เราจะซื้อหนังสือนี้ไป จะมีข้อสัมภาษณ์เล็กน้อยครับ เราจะถามเธอบ้างก่อนนะครับ?
หน้าตรงของการซื้อหนังสือ
ครู (T): ว่าจะเลือกหนังสือที่เรียกว่า “The Story of the World” นักได้หรือไม่ครับ?
เด็ก (D): ใช่นะครับ! ฉันชอบนี้มาก!
ครู (T): ดีมากนะครับ! หนังสือนี้จะเป็นของเธอแล้วครับ! อีกทั้งหนังสือนี้จะช่วยเหลือเธอในการเรียนเรื่องประวัติศาสตร์มากนะครับ.
หน้าตรงของการจ่ายเงิน
ครู (T): ก่อนที่เราจะเดินออกจากร้านครับ จะมีข้อสัมภาษณ์หนึ่งเราจะถามเธออีกครับ. ว่าจะใช้เงินไหม้นักขายหนังสือนักได้หรือไม่ครับ?
เด็ก (D): ใช่นะครับ! ฉันจะใช้เงินไปซื้อหนังสือนี้!
ครู (T): ดีมากนะครับ! หนังสือนี้จะเป็นของเธอแล้วครับ! ก่อนที่เราจะเดินออกไป จะมีข้อสัมภาษณ์หนึ่งที่เราจะถามเธออีกครับ. ว่าจะคิดเรื่องอะไรได้หลังจากอ่านหนังสือนี้ครับ?
เด็ก (D): ฉันจะคิดเรื่องประวัติศาสตร์มากมาย! ฉันจะอ่านเรื่องเกี่
หน้ากลางร้าน
ฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝายายกันห่างจากฝายายฝา
หน้าที่หาหนังสือ
- หน้าหลักของร้าน
- มีหลายหน้าต่างๆ แตกต่างกัน โดยแต่ละหน้ามีภาพหนังสือที่จัดเรียงอย่างฉันเนียน หน้าหลักของร้านหนังสือมีหลายแถวหน้าต่างๆ ซึ่งมีภาพหนังสือหลากหลายประเภท รวมถึงหนังสือเด็ก หนังสือวิทยาศาสตร์ และหนังสือการเรียนเพื่อการศึกษา
- มีหน้าต่างๆ ที่มีเปลงายางหน้าต่างหลังมองเห็นหนังสือหลายเล่ม บางหน้ามีหน้าต่างหลังที่มีภาพหนังสือหลายเล่มเหมือนกัน
- มีหน้าต่างๆ ที่มีหน้าต่างหลังที่มีภาพหนังสือที่ถูกปิดด้วยหน้าปกหนังสือ ให้เด็กที่อยากหาหนังสือสามารถเปิดหน้าปกหนังสือเพื่อดูข้อมูลหนังสือ
- หน้าหลังของร้าน
- มีหน้าต่างๆ ที่มีเตียงหนังสือที่มีหนังสือหลายเล่มเก็บอยู่ บางเตียงมีหนังสือเกี่ยวกับหนังสือเด็ก บางเตียงมีหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และวิชาการ
- มีหน้าต่างๆ ที่มีหน้าตลาดหนังสือ หรือช่องที่เก็บหนังสือที่เด็กชอบหรือหนังสือที่ยังไม่ถูกขายออก
- มีหน้าต่างๆ ที่มีหน้าตลาดหนังสือเล็กๆ หรือช่องที่เก็บหนังสือที่มีขอบเขตเฉพาะเจาะจง เช่น หนังสือเรื่องราวเล็กๆ หรือหนังสือเรื่องราวแนะนำ
- หน้าหลังของร้าน
- มีหน้าต่างๆ ที่มีหน้าตลาดหนังสือ หรือช่องที่เก็บหนังสือที่มีขอบเขตเฉพาะเจาะจง เช่น หนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ หนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ หรือหนังสือเกี่ยวกับศิลปะ
- มีหน้าต่างๆ ที่มีหน
หน้าตรงของการซื้อหนังสือ
- การแสดงความสนใจ:
- หลังจากเด็กๆ ที่เลือกหนังสือที่เธอชอบ ครูหรือพ่อแม่จะบอกเด็กๆ ว่า “ดูแลว่าหนังสือนี้เป็นของใคร? มันเป็นของเธอนะครับ!”
- หนังสือที่เด็กๆ เลือกจะมีการแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าเธอชอบมันเพราะมันมีภาพสวย หรือเนื้อหาที่น่าสนุก
- การฝากเงิน:
- ครูหรือพ่อแม่จะบอกเด็กๆ ว่า “เราต้องฝากเงินเพื่อได้หนังสือนี้ หนังสือมีค่าเงินเพราะมันเป็นสิ่งที่มีค่า”
- หนังสือที่เด็กๆ ฝากเงินไปจะมีการทำเครื่องหมายหรือการบันทึกในรายการหนังสือของบ้าน
- การรับหนังสือ:
- หลังจากเด็กๆ ฝากเงินเสร็จแล้ว พวกเขาจะได้หนังสือมาเล่า
- ครูหรือพ่อแม่จะช่วยเด็กๆ ในการเปิดหนังสือและชวนให้เด็กๆ รู้ว่าจะเปิดหนังสืออย่างไร
- การเรียนรู้ถึงค่าเงิน:
- หนังสือที่เด็กๆ ฝากเงินไปจะเป็นเรื่องที่ช่วยให้เด็กๆ รู้ถึงค่าเงินและการฝากเงิน
- ครูหรือพ่อแม่จะอธิบายว่าเงินเป็นสิ่งที่มีค่าและทำไมเราต้องฝากเงินเพื่อได้สิ่งที่มีค่า
- การบันทึกหนังสือ:
- หนังสือที่เด็กๆ ฝากเงินไปจะมีการบันทึกในราย
หน้าตรงของการจ่ายเงิน
เด็ก (D): แล้วเราเลือกหนังสือที่เราอยากซื้อแล้วครับ! ว่าจะใช้เงินไหม้นักได้หรือไม่ครับ?
ครู (T): ใช่นะครับ! จะมีข้อสัมภาษณ์หนึ่งที่เราจะถามเธอก่อนที่จะซื้อหนังสือนักได้ครับ. ว่าจะใช้เงินไหม้นักได้ด้วยเงินสดหรือบัตรเคาท์เซอร์คราฟท์ครับ?
เด็ก (D): ฉันจะใช้เงินสดนะครับ! ฉันมีเงินในกระเป๋าของฉันเองนะครับ.
ครู (T): ดีมากนะครับ! แล้วเราจะไปที่หน้าตรงของการจ่ายเงินนักได้ครับ. นักได้ครับ จะขอให้เธอแสดงเงินให้เห็นก่อนที่จะเริ่มการจ่ายครับ.
เด็ก (D): ใช่นะครับ! ฉันมีเงินดีมากนะครับ.
ครู (T): ก่อนที่เราจะเริ่มการจ่าย จะมีข้อสัมภาษณ์อีกครั้งเพื่อความระมัดระวัง. ว่าจะจ่ายหนังสือแรกด้วยเงินเพียงสี่บาทหรือห้าบาทครับ?
เด็ก (D): ฉันจะจ่ายหนังสือแรกด้วยเงินห้าบาทนะครับ! ฉันชอบหนังสือนี้มากนะครับ.
ครู (T): ดีมากนะครับ! แล้วเราจะเริ่มการจ่ายครับ. นักได้ครับ จะขอให้เธอใส่เงินห้าบาทในกระเป๋าที่มีหลายช่องนักได้ครับ.
เด็ก (D): ใช่นะครับ! ฉันจะใส่เงินห้าบาทไปนักได้ครับ.
ครู (T): ดีมากนะครับ! นักได้ครับ จะนับเงินแล้วจ่ายหนังสือให้เธอไปครับ.
เด็ก (D): ขอบคุณครับ! ฉันรู้สึกที่ดีมาก! ฉันจะอ่านหนังสือแรกทันทีนะครับ.
ครู (T): ขอบคุณเด็กส่วนกัน! แล้วเราจะเดินออกไปแล้วครับ! อย่าลืมที่จะอ่านหนังสือทุกวันนะครับ!
*เด็ก (D): ใช่นะคร
หน้าตรงของการออกจากร้าน
หน้าตรงของการออกจากร้านนั้นเป็นที่ที่เด็กๆ และครูที่กำลังเรียนรู้ภาษาอังกฤษมักจะมีโอกาสที่จะฝึกทักษะการใช้ภาษาและการสื่อสารโดยตรง。ภายในร้านครึ่งตามครึ่งเป็นสถานที่เล่นตลอด ที่เด็กๆ สามารถนำทักษะที่เรียนรู้มาใช้กับสิ่งที่เป็นที่สนุกสนานเป็นส่วนใหญ่ ดังนี้:
- ระบบจ่ายเงิน: ที่นี่เด็กๆ จะมีโอกาสฝึกทักษะการจ่ายเงินและนับเงิน โดยการใช้เงินที่สมบูรณ์แบบของเขาเอง หรือเมื่อมีครูมอบเทคไปด้วยธนาคารหนึ่งเดี่ยวกัน โดยตัวอย่างเช่น:
- “How much is this book? It’s five pounds.”
- “I have two pounds. Can I buy it?”
- การเลือกสินค้า: การเลือกหนังสือหรือสินค้าอื่นๆ ที่เด็กๆ อยากซื้อเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกการสื่อสารและการเลือกตัวเลือก:
- “I want this book. It’s my favorite story.”
- “Can I have this toy? It’s red.”
- การสัมภาษณ์และการตอบคำถาม: การสัมภาษณ์เรื่องราวสินค้า หรือเรื่องราวส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย:
- “What is this?”
- “How do you spell ‘book’?”
- การออกจากร้าน: หลังจากซื้อสินค้าแล้ว การออกจากร้านก็เป็นโอกาสที่จะฝึกการสื่อสารของเด็กๆ ด้วย:
- “Thank you, Mrs. Teacher.”
- “Bye, Mr. Shopkeeper.”
- การทบทวน:ังจา หลกออกจากร้าน ครูอาจให้เด็กๆ ทบทวนคำศัพท์หรือการใช้ภาษาที่พวกเขาเรียนรู้ไปในสถานการณ์ที่เป็นที่สนุก:
- “I bought a book today. It’s about a cat.”
- “I went to the shop and bought some toys.”
หน้าตรงของการออกจากร้านนั้นไม่เพียงแค่เป็นสถานที่จ่ายเงินและออกจากร้าน แต่ยังเป็นที่ที่เด็กๆ สามารถฝึกทักษะการใช้ภาษาและการส