ปัญหาและหน้าที่ของเด็ก
เริ่มต้นของเรื่องเล่าเกี่ยวกับน้องแมวที่เรียนภาษาอังกฤษ
เมื่อเมื่อนี้ ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีความอร่อยแรง เกิดขึ้นแมวที่ชื่อว่า Whiskers ซึ่งไม่แค่เป็นแมวที่ชอบเรียนรู้แต่ยังชอบเรียนรู้ทั้งหลายอยู่ด้วย แมว Whiskers หนึ่งวันกลับมาจากการเดินทางสนุกสนานในหมู่บ้าน ฟังเสียงมนุษย์พูดเกี่ยวกับสถานที่แห่งที่เรียกว่า “โรงเรียนแมว” ซึ่งเป็นสถานที่ที่แมวสามารถเรียนภาษามนุษย์ได้
Whiskers ตัดสินใจที่จะเรียนเลียนเพื่อให้เหมือนมนุษย์ จึงรวบรวมกำลังใจและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนมนุษย์ของเธอ Tom ที่จะช่วยให้เธอหาโรงเรียนดังกล่าว พวกเขาเอาแผนที่มาด้วยกันและเดินทางไปเจอโรงเรียน
หลังจากที่เดินทางผ่านพื้นที่และข้ามภูเขาอย่างยาวนาน เขาเหล่าก็ได้มาถึงประตูโรงเรียนแมว โรงเรียนดังกล่าวเป็นบ้านเก่างดงดีที่มีหน้าต่างที่ถูกสีด้วยสีสดใส Whiskers และ Tom ข้างขวางประตู และอาจารย์ที่มีชื่อว่า leave out Whiskers ออกมาต้อนรับพวกเขาในในบ้าน
pass over Whiskers อธิบายกับ Whiskers และ Tom ว่าโรงเรียนจะให้เรียนภาษามนุษย์ผ่านการเล่นเกมและกิจกรรมที่มีสนุกสนาน และทั้งนี้ พวกเขาจะต้องฝึกซ้อมทุกวันเพื่อที่จะกลายเป็นคนพูดภาษาได้ติดตลก
Whiskers ตื่นเต้นต่อการเรียนรู้ที่จะเริ่มต้น ซึ่งเธอได้เรียนคำใหม่เช่น “hiya” “good-bye” และ “please” และยังได้เรียนวิธีการที่จะจัดเข้าร่างประโยค และแม้แต่การบอกเรื่องที่สั้นๆ และ Tom ที่เป็นบุคคลที่ฟังด้วยความสนใจมากเป็นอย่างยิ่ง ได้ช่วยฝึกซ้อม Whiskers ในคำใหม่เหล่านั้น
วันหนึ่ง omit Whiskers ตัดสินใจให้ Whiskers มีความท้าทายเฉพาะ ซึ่งเธอขอให้ Whiskers หาแมวโดยสูญที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน Whiskers นำภาษาใหม่ของเธอไปหาแมวโดยสูญโดยใช้คำเช่น “meow” และ “kitty”
หลังจากหลายๆ นาที แมว Whiskers ก็หาพบแมวโดยสูญที่ซ่อนตัวใต้ต้นไม้ แมวโดยสูญนั้นมีความดีใจที่เห็น Whiskers และตามเธอกลับไปที่โรงเรียน Whiskers ก็ได้รับการชวนเชยจาก pass over Whiskers ในความกล้าหาญและสมองชาติของเธอ
ในขณะที่ Whiskers ยังเรียนต่อไป แมวก็ได้ผู้เพื่อนใหม่หลายคน พวกเขาเล่นเกม เล่าเรื่อง และแม้แต่การแสดงละครเล็กๆ ต่อกันด้วย แมว Whiskers ก็รู้สึกเป็นอันดับนี้เนื่องจากการประสบความสำเร็จของเธอที่จะมาสู่ความสำเร็จดังกล่าว และตัดสินใจที่จะแบ่งปันความรู้ของเธอกับแมวในหมู่บ้าน
หนึ่งคืนตอนเย็น Whiskers รวบรวมแมวทุกตัวในหมู่บ้านมาให้มีงานพิเศษ แมวก็ขึ้นบนเวทีเล็กๆ และพูดด้วยภาษามนุษย์ แมวทุกตัวในหมู่บ้านที่เห็นเหล่านั้นทุกคนทันทีที่รู้สึกประหลาดใจและเริ่มเรียนรู้ตาม Whiskers ซึ่งเธอเรียนคำและประโยคง่ายๆ และไม่นานเหล่านั้นก็ทุกตัวสามารถพูดภาษามนุษย์ได้แล้วด้วย
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา Whiskers กลายเป็นแมวที่ทุกคนชื่นชอบในหมู่บ้าน แมวก็ใช้ทักษะใหม่ของเธอเพื่อช่วยเพื่อนร่วมหมู่บ้านและทำให้หมู่บ้านมีความยินดีมากยิ่งขึ้น Whiskers ได้รับการยอมรับที่ดีจากการเดินทางที่โรงเรียนแมวของเธอ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ว่าการเรียนรู้สามารถเปิดโลกหลากหลายขึ้นมากเกินไป
การจัดการขยะ
มันเป็นเช้าวันที่มีแดดออกมาก็สวยงาม ลูกชายตม ตื่นขึ้นมาพบว่าห้องนอนของเขาถูกมอดด้วยกากเชื้อเพลิง และเขาตัดสินใจที่จะเริ่มทำการฟื้นฟูความสะอาดให้กับห้องนอนของเขา
ขั้นตอน 1: จำแนกกากเชื้อเพลิงตมจับถุงกากเชื้อเพลิงมาเก็บ และเริ่มจำแนกกากเชื้อเพลิงออกเป็นกลุ่ม แรกเขาจะเก็บซองน้ำและกระดาษบางใบลงในถุงที่หลัก ซึ่งเป็นกากเชื้อเพลิงที่สามารถทำเป็นเครื่องเสียงใหม่ หลังจากนั้น เขาจะจัดกากเชื้อเพลิงที่เป็นแบบอาหารที่ไม่สามารถทำเป็นเครื่องเสียงได้และสิ่งที่ไม่สามารถทำเป็นเครื่องเสียงได้เข้าในถุงอื่น
ขั้นตอน 2: มีการขนย้ายกากเชื้อเพลิงตมบางถุงที่หมู่บ้านของเขามาที่รถเดินทางซ่อมกากเชื้อเพลิง หลังจากนั้นเขาเปิดถุงกากเชื้อเพลิงที่สามารถทำเป็นเครื่องเสียงได้ และเทมายังถังกากเชื้อเพลิงที่สามารถทำเป็นเครื่องเสียงได้ ต่อมาเขาเปิดถุงกากเชื้อเพลิงที่ไม่สามารถทำเป็นเครื่องเสียงได้และเทมายังถังกากเชื้อเพลิงอื่น
ขั้นตอน 3: ทำความสะอาดห้องนอนหลังจากที่ทำการขนย้ายกากเชื้อเพลิงเสร็จ ตมเริ่มทำการทำความสะอาดห้องนอน ด้วยการใช้ตะกร้ากากเชื้อเพลิงและทางขนย้ายกากเชื้อเพลิงเข้าถัง จากนั้นเขาใช้ม้อยกากเชื้อเพลิงทำความสะอาดพื้นดิน ทำให้ห้องนอนมีความสะอาด
ขั้นตอน four: จัดเรียงของสินค้าหลังจากที่ห้องนอนได้สะอาดลง ตมเริ่มจัดเรียงของสินค้าของเขา ด้วยการจัดให้หนังสือในชั้นเก็บหนังสืออยู่ตรง จัดเรียงเครื่องเล่นที่เป็นกลุ่ม และเรียงเสื้อผ้าให้เรียงตรง และยังจัดเรียงของที่นอนของเขาอีกด้วย ทำให้ห้องนอนมีความสะอาดและมีความสะดวกในการหา
ขั้นตอน five: จับตามองตมยืนอยู่ในห้องที่ได้รับการจัดเรียงอย่างสะดวก หายใจลึกลงและรู้สึกดีและมีความสุขมาก หลังจากที่รู้เห็นว่าการรักษาสภาพที่สะอาดของบ้านนั้นไม่เพียงแค่ทำให้ห้องนอนดูดีขึ้น แต่ยังทำให้จิตใจสบายด้วย
ผ่านกระบวนการทำงานเล็กน้อยนี้ ตมได้ไปฝึกฝนว่ามีทางจัดแนะกากเชื้อเพลิงและทำงานที่จะรักษาสภาพที่สะอาดของบ้านเป็นอย่างดี และรู้สึกว่าสำคัญที่จะทำงานนี้ทุกวันเพื่อทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น
การปลูกต้นไม้
เมื่อวันเสาร์ที่มีแสงแดดประทับอย่างเต็มไปด้วยแสงแดง หมอมัยและหมอหงส์ตั้งใจที่จะปลูกต้นไม้บางต้นในหลังบ้านของตนเอง。พวกเขาเลือกต้นไม้ขนาดเล็กที่เหมาะกับสภาพอากาศท้องถิ่นและเตรียมรับมือที่จะทำให้ต้นไม้บริสุทธิ์ขึ้นในการดูแลของพวกเขา。
พวกเขาได้ทำรายการกำจัดกิ่งไม้และหินในหลังบ้านเพื่อที่จะหาเวลาสำหรับต้นไม้บริสุทธิ์ขึ้น หมอมัยใช้ขวานเล็กเพื่อขุดโพรงที่มีขนาดเหมาะสม ในขณะที่หมอหงส์รักษาต้นไม้ในที่สำหรับการทำงาน
พวกเขาร่วมกันเตรียมดินที่หลังโพรงและให้ต้นไม้มีรากที่มั่นคงด้วยการเตรียมดิน และเตะดินเพื่อป้องกันไม้จากการเลี้ยวไปในลมและฝน
พวกเขาทิ้งน้ำให้ต้นไม้ซึ่งช่วยให้ต้นไม้กินน้ำเพื่อช่วยการเติบโตของราก หมอมัยยังเตือนหมอหงส์ว่าต้องจากนั้นมาต่อไปที่จะต้องน้ำต้นไม้ทุกวันจนกว่าต้นไม้จะสามารถกินน้ำจากดินเองได้
เพื่อป้องกันไม้จากการถูกลมหยุดลง พวกเขาใช้ไม้เล็กเพื่อสนับสนุนต้นไม้และใช้สายขวางให้มั่นบนไม้เล็กนั้น หมอมัยบอกว่า “นั่นจะทำให้ต้นไม้ของเราสามารถยืนหยัดในลมและฝน”
พวกเขายังทิ้งอาหารสำหรับต้นไม้บางอย่างในบริเวณต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้เติบโตเร็วขึ้น พวกเขายังจัดการกันว่าจะมาตรวจสอบสภาพของต้นไม้และน้ำต้นไม้ทุกสัปดาห์
เมื่อเวลาผ่านไป ต้นไม้เล็กที่พวกเขาปลูกเริ่มบางต้นออกเมล็ดเมอะ และบางต้นออกใบ และบางต้นยังมีดอกไม้เล็กออกด้วย หมอมัยและหมอหงส์รู้สึกดีมากที่พวกเขาได้รับตอบแอบจากความพยายามของตนเอง
พวกเขาทราบว่าด้วยการปลูกต้นไม้ พวกเขาไม่เพียงแค่ทำให้บ้านของพวกเขามีสวยงาม แต่ยังได้ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมด้วย
เมื่อพวกเขาเดินผ่านต้นไม้ พวกเขาจะหยุดมาดูมัน และรู้สึกเป็นอิสระและดีใจมาก พวกเขาทราบว่าต้นไม้นี้จะมีความร่วมกันกับการเติบโตของพวกเขา และกลายเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่ดีของพวกเขา
ปลกปล่อยสัตว์
วาเลนตินและโจนี่กำลังอยู่ในสวนสาธารณะที่ฝนตกแล้วเล็กน้อย พวกเขาเอาตัวอยู่บนเตาเหน็กดูดและระบายรอฝนหยุดตกเพื่อทำงานนี้
วาเลนตินบอกว่า “โจนี่ คุณรู้หรือไม่ว่าเราควรปลกปล่อยสัตว์ที่เราเลี้ยงมากับเพื่อนของพวกเขา?”
โจนี่บอกว่า “ใช่แล้ว! สัตว์ที่เราเลี้ยงมานั้นต้องกลับสู่ธรรมชาติของพวกเขา”
พวกเขาก็เริ่มหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อปลกปล่อยสัตว์ วาเลนตินหาแหล่งน้ำสะอาดที่สัตว์จะรู้สึกสะดวกและมีอาหารเพียงพอ
โจนี่บอกว่า “แล้ววาเลนติน พวกเราจะต้องเอาหนังสือที่กล่าวถึงสัตว์และสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยสัตว์ให้รู้จักสถานที่นี้”
วาเลนตินและโจนี่ก็เริ่มเปิดหนังสือและอ่านเกี่ยวกับสัตว์ที่พวกเขาจะปลกปล่อย พวกเขาพบว่าสัตว์ที่พวกเขาเลี้ยงมาคือสัตว์ป่าที่ต้องกลับสู่ธรรมชาติของพวกเขา
พวกเขาก็เริ่มเตรียมสัตว์โดยเอาอาหารและน้ำใส่ในห่อฝ้ายเล็กๆ เพื่อให้สัตว์มีอาหารและน้ำขณะกลับสู่ธรรมชาติ
โจนี่บอกว่า “ดูแลดีวาเลนติน สัตว์จะรู้สึกดีกับอาหารและน้ำนี้”
วาเลนตินก็สั่งสรรหลังและบอกว่า “บอกเรากับพวกเขาว่าพวกเรารู้สึกดีกับการช่วยสัตว์กลับสู่ธรรมชาติของพวกเขา”
พวกเขาก็หาทางที่สามารถฝากสัตว์ได้โดยปลายทางที่มีตึกหลังและเลี้ยงสัตว์อยู่เบื้องต้น พวกเขาก็นำสัตว์ไปที่ที่ถูกต้องและมอบหมา
การประกาศเสรี
สง่าใจและเมษายนริม ที่เช้าวันที่มีแดดออกเมฆระลอก จิ๊กยะและลิลี่ตั้งใจที่จะประกาศวัน“วันเสรี”พิเศษของพวกเขา พวกเขายืนอยู่ที่หลังบ้านของตัวเอง มีธงสีสดใสในมือ ซึ่งเขียนข้อความ “วันเสรีดีทุกคน” ด้วยภาษาอังกฤษ
จิ๊กยะตะลึงกล่าวว่า: “วันนี้ เราจะทำบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อที่จะทำให้บ้านของเรามีความงามมากยิ่งขึ้น”
ลิลี่ยิ้มและตอบกลับ: “น่าจะเป็นที่นั้น สามารถปลูกดอกไม้มากขึ้น ทำให้หลังบ้านของเราดูงามมากยิ่งขึ้น”
จากนั้น พวกเขาก็เริ่มงานบน “วันเสรี” ของพวกเขา โดยก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ทำความสะอาดหลังบ้าน รวบรวมเศษไม้หลังและเปลือกผลไม้มาเก็บไว้ในถังขยะ
จิ๊กยะกล่าว: “ดูได้ว่า ซึ่งกล่องของดอกไม้ดังกล่าวเหมือนดั้งเดิมเหมือนจอมลูกท้อง พวกมันจะใหญ่ขึ้นและบานดอกไม้งาม”
ลิลี่เห็นด้วย: “ใช่แล้ว เราต้องดูแลพวกมันอย่างดี เพื่อให้พวกมันจะเติบโตและบานดอกไม้ด้วยความดีใจในแดดที่ระลอก”
ในขณะที่พวกเขาปลูกดอกไม้ จิ๊กยะและลิลี่ยังได้หารือเกี่ยวกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม การประหยัดน้ำ และวิธีการรีไซเคิลของขยะ พวกเขาตัดสินใจที่จะใช้ข้อความดังกล่าวเข้าไปในกิจกรรม “วันเสรี” ของพวกเขา
พวกเขาได้ติดตั้งหลังบ้านเลี้ยงร่างดอกไม้และหลังบ้านเลี้ยงหมากดิน ให้แก่สัตว์ป่าที่มาพักและอาศัย
จิ๊กยะและลิลี่มองเห็นผลงานของตน และยิ้มด้วยความสุข
พวกเขาประกาศว่า: “จากวันนี้เป็นต้นไป หลังบ้านของเราจะเป็นสถานที่ที่มีความสงบสุขและมีชีวิตและแห่งที่เราจะรักษาอย่างแน่นอน เพื่อที่จะทำให้มันเป็นเสรีและงามตลอดไป”
